ผมมี Fiio Cp13 และ We Are Rewind ทั้งสองรุ่น ส่วนตัวแล้วชอบทั้งสองแบรนด์ และลำเอียงความชอบเรื่องน้ำเสียงไปทาง We Are Rewind เล็กน้อย แต่ก็นั่นแหละครับ ถ้าเรามองที่สเป็คแล้ว ทั้งสองรุ่นมีจุดขายที่ดีทั้งสองรุ่น ส่วนราคาแน่นอนว่ามันแตกต่างกันเกือบครึ่ง
ถึงจะจั่วหัวว่ารีวิวเปรียบเทียบ แต่ผมก็ไม่ได้ฟันธงอะไรเพียงอยากนำข้อมูลมาเขียนให้อ่านกันเท่านั้น โดยผมจะแบ่งหัวข้อออกเป็น 3 ส่วนได้แก่ งานออกแบบและวัสดุ , สเป็คในส่วนของการฟังเพลง และราคาที่แตกต่างกันและความเหมาะสมต่อราคา

1. งานออกแบบและวัสดุ
ทั้งสองรุ่นเป็นเครื่องเล่นเทปพกพาที่มีดีไซน์ย้อนยุคแบบ Walkman แต่แตกต่างกันในขนาด น้ำหนัก และรายละเอียดการใช้งาน โดยใช้วัสดุหลักเป็นอะลูมิเนียมเพื่อความทนทานและน้ำหนักเบา
- We Are Rewind (WE-001) : ดีไซน์ขนาดใหญ่กว่า (140.8 x 88.8 x 33.5 มม., น้ำหนักประมาณ 404 กรัม) ตัวเครื่องทำจากอะลูมิเนียมทั้งหมด ให้สัมผัสเย็นและแข็งแรง ปุ่มกดขนาดใหญ่ใช้งานง่าย มีสวิตช์ Bluetooth ชัดเจน และปุ่มปรับระดับเสียงแบบ rocker เปิดฝาเครื่องง่าย แต่ตัวเครื่องถือว่าใหญ่อยู่ในการพกพาถ้าเราจะใส่กระเป๋าเสื้อหรือกางเกงอะไรแบบนั้น แต่ๆๆ เค้ามีขายอุปกรณ์เสริมเอาไว้เสียบที่เข็มขัดด้วยนะ
-
Fiio CP13 : ดีไซน์กะทัดรัดกว่า (120 x 88.3 x 31.8 มม., น้ำหนัก 310 กรัม) ตัวเครื่องอะลูมิเนียมอัลลอยเคลือบสีแบบสองโทน ไม่มีสกรู visibles ให้ดูเรียบหรู มีหน้าต่างใสขนาดใหญ่สำหรับดูเทป ปุ่มหมุนปรับเสียง และปุ่มควบคุมพื้นฐาน (เล่น หยุด กรอ) การเปิดฝาหน้าอาจจะไม่มีร่องเล็กๆให้เกี่ยวแบบ We Are Rewind แต่ก็ไม่ได้เปิดยาก ส่วนบนของเครื่องมันเหลื่อมนิดๆทำให้เปิดออกง่ายอยู่

2. สเป็คในส่วนของการฟังเพลง
ทั้งคู่เน้นการเล่นเทปแบบอะนาล็อก ไม่มี Dolby noise reduction ทำให้มีเสียงรบกวนพื้นฐาน แต่แตกต่างในคุณภาพเสียงและฟีเจอร์เสริมสำหรับการฟัง ว่าแต่ Dolby noise reduction มันคืออะไรละเนี่ย ?
Dolby Noise Reduction คืออะไร Dolby NR เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาโดย Dolby Laboratories เพื่อลด เสียงรบกวนพื้นฐาน (tape hiss) ในเทปคาสเซ็ท โดยทำงานผ่านการ encode และ decode สัญญาณเสียง และก็ไม่แปลกที่รุ่นใหม่ ๆ อย่าง We Are Rewind และ Fiio CP13 ไม่มี Dolby NR และมีโอกาสน้อยมากที่จะใช้งานในเครื่องเล่นเทปสมัยใหม่ เนื่องจาก ข้อจำกัดด้านลิขสิทธิ์ รวมถึงความซับซ้อนในเทคโนโลยีและความต้องการของผู้ใช้ในยุคปัจจุบัน
We Are Rewind
จะได้เสียงโทนอุ่น (warm) มีเบสหนัก เสียงแหลมยืดยาว แต่มีเสียงฮัมและ noise ชัดเจนในส่วนเงียบ สัญญาณรบกวน (SNR) 50dB เหมาะกับเพลงที่ต้องการความอบอุ่น ตัวเครื่องรองรับ Bluetooth สำหรับเชื่อมลำโพงไร้สาย, ช่องหูฟัง 3.5mm, อินพุตเสียงสำหรับบันทึก mixtape (บันทึกแบบสเตอริโอ), รองรับหูฟังทั่วไป เล่นเทป Type I/II/IV และแบตใช้งานได้ 10-12 ชั่วโมง ชาร์จ USB-C
Fiio CP13
โทนเสียงจะเป็นกลางๆ-ใส (neutral/bright) เบสน้อยกว่าแต่รายละเอียดชัด กลางเด่น โทนบางแต่ไม่บางเกินไป SNR >55dB เสียงเสถียรขึ้นด้วยมอเตอร์แรงสูง (4.2V) และวงจรลด wow & flutter เหมาะฟังเพลงที่มีรายละเอียด รองรับช่องหูฟัง 3.5mm รองรับหูฟัง impedance สูงถึง 600Ω, ไม่มี Bluetooth หรือบันทึก, แต่ใช้ opamp JRC5532 คุณภาพสูงสำหรับขับเสียงแรง เล่นเทป Type I/II/IV, และแบตใช้งานได้สูงสุดประมาณ 10 ชั่วโมง ชาร์จ USB-C

3. ราคาที่แตกต่างกันและความเหมาะสมต่อราคา
We Are Rewind ราคาอยู่ที่ประมาณ 159 USD (ราว 5,500-6,000 บาท) ในไทยราคาประมาณ 8,xxx บาท (ต้องเข้าใจหน่อยน่าจะมีเรื่องต้นทุนภาษี การขนส่ง บลาๆ ) ราคาที่สูงกว่าแต่ก็ดูคุ้มสำหรับคนที่ต้องการ Bluetooth ลูกเล่นบันทึกเสียง และเสียงอุ่นแบบวินเทจ ดีไซน์พรีเมียมถ้าจำไม่ผิดเคยอ่านเจอว่าได้รางวัล GOOD DESIGN AWARD จากประเทศฝรั่งเศสด้วยนะ
ขณะที่ Fiio CP13 ราคา 99-129 USD (ราว 3,500-4,500 บาท) (ปัจจุบันราคาอาจจะปริ่มๆสามพันก็พอหาได้บ้าง)ถูกกว่าประมาณ 30-50% รุ่นนี้คุ้มค่ากว่าด้วยราคาถูกที่กว่าพอสมควร ขนาดเล็ก เสียงเสถียร และแบตเตอรี่ดี เหมาะสำหรับมือใหม่หรือคนที่อยากย้อนยุคโดยไม่เสียเงินมาก แต่เล่นเพลงอย่างเดียวนะ เล่นล้วนๆ
สรุปแบบง่ายๆ ชอบตัวไหนซื้อตัวนั้นเลย ตามงบ ตามความชอบ มีดีพอตัวทั้งคู่ ส่วนคาแรคเตอร์เสียงถ้าได้ลองฟังดูก่อนก็จะดีมาก
